ถ้าอยากลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ ควรเลือกทานน้ำมันปลาหรือน้ำมันตับปลาดี

fishoil

โรคความดันโลหิตสูงภัยร้ายที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินงานวิจัยต่างๆ บอกว่าน้ำมันปลาสามารถช่วยลดความดันได้ แต่มีจำนวนไม่น้อยเลยที่เข้าใจว่าน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาคือตัวเดียวกัน วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันว่าน้ำมันปลากับน้ำมันตับปลาคือตัวเดียวกันหรือไม่ และ ถ้าอยากจะลดความดันต้องทานตัวไหนถึงจะดีที่สุด


แหล่งที่มาของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา

fishoil

น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาจัดเป็นอาหารเสริมที่ได้จากปลาเหมือนกันทั้งคู่ แต่น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลามีแหล่งที่มาแตกต่างกัน

โดยทั่วไปแล้ว น้ำมันปลา (Fish Oil) จะได้จากการผ่านกระบวนการสกัดเพื่อเอาไขมันและน้ำมันจากส่วนต่างๆ ของปลา ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลา หนังปลา หัวปลา ซึ่งปลาที่นิยมนำมาสกัดจะเป็นปลาจากทะลน้ำลึกที่เป็นแถบเมืองหนาว เช่น ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ปลาแองโชวี่ ปลาแซลมอน เนื่องจากปลาจะมีไขมันสะสมที่สูง และ ปลอดภัยจากสารโลหะหนัก ในทางกลับกันถ้าเป็นปลาทั่วไปที่ไม่ใช่จากแถบทะเลน้ำลึก มีโอกาสที่ปลาจะปนเปื้อนสารพิษ เช่น โลหะหนัก ตะกั่ว สารปรอท จากการปล่อยของเสียจากภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก

ส่วนน้ำมันตับปลา หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Cod Liver Fish Oil ได้จากการสกัดน้ำมันและไขมันจากตับของปลา โดยทั่วไปแล้วจะเป็นปลาค็อดแถบมหาสมุรแปซิฟิกและแอตแลนติก

fishoil

ประโยชน์ของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา

น้ำมันปลามีกรดไขมันจำเป็นไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้า 3 ในปริมาณสูง ประกอบด้วย EPA และ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ได้จากการรับประทานเท่านั้น

EPA มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดความดันโลหิต ลดการอุดตันของหลอดเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุในการเกิดโรคหัวใจและสมองอุดตัน นอกจากนี้ EPA ยังมีผลลดการอักเสบ อาการปวดบวมของโรคข้ออักเสบ

DHA เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อสมอง และ บำรุงจอประสาทตา ( Retina ) ช่วยในเรื่องความจำ และการมองเห็น ทำให้เกิดความจำและการเรียนรู้ และ ยังช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับสมอง หลอดเลือด หัวใจ


น้ำมันตับปลา แตกต่างกับน้ำมันปลาตรงที่มี วิตามิน A และ D ที่สูงกว่า แต่ปริมาณ EPA และ DHA น้อยกว่า น้ำมันตับปลามีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของร่างกายของเรา บรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกันและมวลกระดูก

fishoil

แล้วเลือกทานน้ำมันปลาหรือน้ำมันตับปลาดีล่ะ

แนะนำให้เลือกทาน น้ำมันปลาเพราะมีประโยชน์ในด้านบำรุงสมอง สายตา ความจำ ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิต เพราะมี EPA และ DHA ในปริมาณที่สูงกว่า และที่สำคัญก่อนรับประทานอาหารเสริมชนิดใด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

 

รับข่าวสารจาก NUTRIMASTER

ถ้าต้องการยกเลิกรับข่าวสารกรุณาคลิ๊ก !!

ID : @Nutrimaster